🤍ขอบคุณร่างกายของเรา
ให้ของขวัญตัวเองด้วยการดูแลบำบัดร่างกายในเชิงลึก และ เรียนรู้ทำสิ่งใหม่ๆ 🤍✌🏽

เมื่อเดือนก่อน เนะไปที่ M Life Therapy Clinic ตึกมาราธอน
คือเพลินมากค่ะ
MLife Therapy Clinic คลินิกกายภาพบำบัด

ที่นีเปิดประสบการณ์ดูแลตัวเองแบบใหม่ของเนะเลยค่ะ

พอเข้าไปที่ตึกมาราธอนชั้นล่างเค้าจะมีฟิตเนสที่มีอุปกรณ์หลายสิ่งที่เนะไม่เคยเล่นมาก่อน

🧗‍♀️ มีหน้าผาจำลองให้ปีนเล่นด้วยอันนี้ชอบสุดๆเลย
เสริมกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงความคล่องตัวได้อย่างดี

ที่นี่มีโค้ชนักปีนเขาทีมชาติคอยแนะนำเทคนิคให้แบบเป็นกันเองสุด วันนั้นที่ไปเจอนักปีนผาชาวญี่ปุ่นสุดคูลด้วยอ่ะ 😎จิบกาแฟไป ส่องคนมาปีนผาไป ดีต่อใจ ฟินสายตามาก 5555🤩

จะเป็นมือใหม่สายชิลแบบเนะ ก็ฝึกได้อย่างปลอดภัย หรือ ใครอยากอัพเลเวล พัฒนาทักษะการปีนผาช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆได้ดีมากด้วยค่ะ

พอเล่นเสร็จเนะก็ขึ้นมาชั้นบน เข้าสู่โหมดผ่อนคลาย ที่คลินิกกายภาพบำบัด 😌

เนะมีอาการชาๆสะโพกด้านขวาจะเป็นเฉพาะเวลานั่งรถนานๆ เลยมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แล้วได้มาเจอคุณภู นักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์สูงมากเคยทำคลินิกเรียนแพทย์แผนจีน ประสบการณ์ทั้งที่จีน และ ที่โอมานมาแล้ว 🤩 wow แต่ตอนนี้คุณภู นักกายภาพผู้เชี่ยวชาญสุดละมุนกลับมาเปิดคลินิกของตัวเอง ที่ตึกมาราธอนแถวปิ่นเกล้านี่เอง และ ที่นี่สะอาดสบายเป็นกันเองมาก
มีเครื่องมือพร้อม คุณภู และ โค้ชเคน น่ารักและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพที่เนะไม่รู้มาก่อน แม้เนะจะวิ่ง ออกกำลังกาย โยคะเป็นประจำ แต่เราก็สามารถมาดูแลในเชิงลึกได้อีกค่ะ จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บ และ สนุกกับกิจกรรมที่เราชอบได้มากกว่าเดิม

เริ่มต้นการบำบัด ตรวจร่างกาย และรับฟังปัญหาชีวิตก่อน555 จากนั้นเริ่มการบำบัดด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม
เนะไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าเครื่องอะไรนะ แต่แน่ๆคือมันรู้สึกลึกมาก สะเทือนทั้งร่าง555 🥰 และเครื่องนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงด้วย

หลังการรักษาวันถัดมายังตึงๆอยู่เลยค่ะ พอผ่านไปร่างกายเริ่มฟื้นฟู
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเนะนี่ทึ่งเลยเพราะ7วันหลังจากนั้นเนะกลับมาเทสขาซ้อมวิ่งยาว 15km แบบขาเบามาก วิ่งสบาย นั่งนานก็ไม่ชา คงเพราเนะอาการไม่หนักด้วยแหละ และรีบไปดูแลตัวเองก่อนที่จะเรื้อรัง
ประกอบกับเนะออกกำลังกายกล้ามเนื้อก้นสะโพกมากขึ้นตามคำแนะนำของนักกายภาพ ช่วงนี้เดินทางมางานวิ่งบ่อยๆสนุก แทบไม่มีการเจ็บอะไรเลยค่ะ พอได้ผลจริงเลยมาแชร์ต่อเผื่อใครมีปัญหาแบบเดียวกัน ไปลองดูนะคะ จะได้ไม่เรื้อรัง

ตอนนี้รู้สึกมีพลัง 🥰
ประทับใจค่ะ ขอบคุณทีม MLife Shop
ทุกคนโค้ชเคน โค้ชเต้ย คุณอาร์ท คุณภู
ที่แบ่งปันพลังงานดีๆให้กันเสมอ 🤍🤟🏽

#therapy #runninglife #teamnike #yogirun

🩼หลังผ่าตัดครบ 1 เดือน
.
ครบ 1 เดือนหลังผ่าตัดถอดที่ล็อคเข่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมาเลยถือโอกาสมาเจอกับ คุณเคน ที่คลินิกกายภาพ MLife Therapy Clinic คลินิกกายภาพบำบัด
มาถึงก็เริ่มจับเข่าพลิกเลยเช็คการเคลื่อนไหวของข้อเข่า Range of Motion (ROM) ซึ่งเท่าที่อ่านและสอบถามผู้เชี่ยวชาญหลายท่านบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดหลังจากที่ผ่าตัด ACL Reconstruction คือ เรื่องการยืดเหยียดขาให้ตรง (Knee Extension) และ การงอเข่าให้สุด (Knee Flexion) ฟังแล้วดูเหมือนเรื่องง่ายแต่กับคนที่ ACL Reconstruction มานั้นการทำ 2 ท่าที่บอกว่าโคตรเจ็บเลย ส่วนตัว คฤ เองต้องฝืนเหยียดตลอดทำได้ตั้งแต่ประมาณอาทิตย์ที่ 2 ของการผ่าตัว แต่การงอเข่าต้องค่อยๆลองงอ เพราะว่ามันทรมานมากเหมือนเข่า คฤ ไม่เหมือนเดิมเลย กล้ามเนื้อเดิมฝ่อไปเยอะมาก (จากคำอธิบายของเคนคือประมาณว่าพอมีการผ่าตัด ร่างกายเหมือนสั่งการไม่ใช้เราใช้เข่าเลยทำให้กล้ามเนื้อหดตัวเพราะกลัวเจ้บ แต่เราสามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อให้กลับมาได้ต้องใช้เวลาประมาน 1-2 เดือน)
.
🚨หลังจากเช็ค ROM เสร็จก็เป็นการใช้ Laser กระตุ้นการกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนที่อยู่รอบๆบริเวณหัวเข่าเพื่อให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งตามที่ คฤ เคยเรียนมานั้นการที่เพิ่มการไหลเวียนเลือดก็คือการกระตุ้นให้เอาสารอาหารต่างๆมาซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไปนั้นเอง แต่ความแปลกมันมีมากกว่านั้นเพราะว่าหลังจาก Laser นั้นองศาการงอเข่าก็ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ พอมีการพยุง Hamstring เข่างอได้เกือบเท่าข้างซ้ายซึ่งไม่ได้ผ่า เคนเลยบอกว่าวันนี้เดี๋ยวจัดทำ Baseline Test สำหรับเป็นโปรแกรม Recover ระยะ 1-2 เดือนนี้ให้เข่ากลับไปใช้งานได้เหมือนก่อนผ่าตัด หลังจากคุยเสร็จก็ติด Kinesio Tape เพื่อล็อคกล้ามเนื้อ Quad และรอบๆ Patella แล้วก็ลุยการ Baseline Test เลย
.
🏃🏻ก่อนทดสอบต้องวิ่ง(เรียกว่าเดินดีกว่า)บนเครื่องประมาน 10 นาที เพื่อ Warm up กล้ามเนื้อต่างๆ พอเคนตั้งเครื่องเสร็จก็มาอธิบายกระบวนการทดสอบ ซึ่งจะใช้ท่า Seated Lef Pressed ที่มุมเข่า 90 องศา คฤ จะต้องถีบเครื่องด้วยขาทั้ง 2 ข้างพร้อมๆกันจากน้ำหนักเบาไปจนถึง Normal Limit ซึ่งก็คือ 2 เท่าน้ำหนักตัว (คฤ หนัก 86 กิโลกรัม 2 เท่าก็ประมาณ 172 กิโลกรัม) ตอนเริ่มทดสอบถีบจากน้ำหนักเบาๆแถบไม่รู้สึกอะไร เคนจะค่อยๆปรับน้ำหนักไปเรื่อยจนถึง Normal Limit สุดท้าย คฤ ถีบได้ถึง 180 กิโลกรัม พอถีบเสร็จก็ลุกขึ้นมาใส่รองเท้า หารู้ไม่เคนบอกว่าพี่ยังไม่ต้องใส่รองเท้า อันนี้แค่หา Max Limit สำหรับทดสอบ(แค่ถีบทดสอบประมาน 10 ทีคือเหงื่อมาแล้วทั้งตัว) เดี๋ยวต้องถีบใหม่อีกครั้งเพื่อเก็บข้อมูลจริงอีก 1 set
.
💪🏻พอเริ่มถีบจริงโจทย์สำคัญมี 3 ส่วนคือ ความเร็ว ,ความแรง และการระเบิดแรง 3 ตัวนี้จะเป็นการเก็บข้อมูล Baseline Test สำหรับทำให้ขอทั้ง 2 ข้างนั้นกลับมาเป็นปกติเท่ากัน
จะเร่ิมถีบจากน้ำหนักเบาๆและเพิ่ม 10% ของน้ำหนักไปเรื่องๆ (ตามคลิปที่ลงไว้คือการถีบ 2 ครั้งสุดทีเป็น Max Limit ใหม่ที่ 196 กิโลกรัม) ผลของการทดสอบที่ได้ คือ ขาขวาถีบเร็วกว่าขาซ้ายประมาน 0.6 วินาที ขาซ้ายแรงเยอะกว่าประมาน 75% และที่สำคัญที่สุดการระเบิดแรงขาซ้ายแทบจะระเบิดแรงได้ทันที ขาขวาเหมือนต้องชาจพลังรีดเร้นจักระเป็นชาติกว่าจะออกแรงสูงสุดได้
.
👉สรุป
Baseline Test ผลออกมาถือว่าดีกว่าคาดมากแต่ยังมีอาการเจ็บรอบๆบริเวณผ่าอยู่ จึงควรที่จะทำยังไงก็ได้ให้ใช้งานเข่าเป็นปกติโดยไม่เจ็บ ที่สำคัญที่ทำให้เข่าต้องรับแรงมากเกินไป เช่น คุกเข่า นั่งไขว้ห้าง นั่งขัดสมาธิ ต้องงดไปจนกว่าแผลและกล้ามเนื้อกลับมาเป็นปกติ การใช้งานเข่าทั่วไปยังไม่ควรขยับด้านข้างยังเป็นการเดินหน้าถอยหลังเรื่อยๆ ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ กินราเมนเยอะๆ เพราะ collagen ดี (เคนบอกเข้าทาง คฤ) วิตามินซี วิตามินดี แล้วก็แคลเซียม
เพิ่ม ROM ให้ครบองศา เพิ่มกล้ามเนื้อ เพิ่มความเร็ว 2 เดือน Boulder ได้
#การเงินกับคฤ
#กายภาพกับคฤ